เตรียมพบศึกการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ประจำชาติยุโรป 2016 รอบรองชนะเลิศ ซึ่งคู่แรกทีมชาติเวลส์ลงฟาดแข้งกับทีมชาติโปรตุเกส ในคืนวันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2559 ณ สนาม ปาร์ก โอลิมปิก ลียงเน่ส์ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านช่อง 3 เอชดี เมื่อเวลา 02.00 นาฬิกา ตามเวลาไทย
ทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้ารอบรอ
งชนะเลิศนี้ได้จากการเอาชนะทีมชาติโปแลนด์ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเป็นชัยชนะจากการดวลลูกโทษ 5 ประตูต่อ 3 หลังจากที่เสมอกันในเกม 1 ประตูต่อ 1 ซึ่งก่อนหน้านั้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โปรตุเกสก็สามารถเอาชนะทีมชาติโครเอเชียมาได้ด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0 จากการจัดอันดับของฟีฟ่า ทีมชาติโปรตุเกสภายใต้การนำทัพของ แฟร์นานโด ซานโต๊ส ถูกจัดให้เป็นทีมอันดับ 8 ของโลก และเคยเข้ารอบรองชนะเลิศในศึกการแข่งขันฟุตบอลยูโรมาเป็นครั้งที่ 4 จากการแข่งขัน 5 ครั้งหลังสุด ในรอบรองชนะเลิศนี้ ทีมชาติโปรตุเกสลงศึกโดยไม่มีกองกลางตัวเก่งอย่าง วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ เนื่องจากติดโทษแบนหนึ่งนัด เพราะได้รับใบเหลืองครบ 2 ใบ จึงคาดว่ากุนซือโปรตุเกสจะให้ ดานีโล่ เปเรยร่า ลงสนามแทน อีกทั้ง เปเป้ มีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาจนไม่สามารถลงซ้อมได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จึงต้องรอดูอาการต่อไป หาก เปเป้ ไม่สามารถหายทันลงแข่งขัน คาดว่าจะส่ง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ลงศึกครั้งนี้แทน ซึ่งจะลงเล่นร่วมกับ โชเซ่ ฟอนเต้ ส่วนตำแหน่งริมเส้นขวาได้ส่ง เซดริก โซอาเรส ในขณะที่ฝั่งซ้ายส่ง เอลิเซว ลงดูแลประจำตำแหน่ง ส่วน ราฟาแอล แกร์เรโร่ กำลังรอประเมินความฟิตก่อนลงแข่งขัน ในขณะที่ อันเดร โกเมส ได้หายจากอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว สำหรับตำแหน่งกองหน้ายังคงส่งดาวยิงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงทำประตูคู่กับ นานี่ โดยมี อาเดรียน ซิลวา, เรนาโต้ ซานเชส และ ชูเอา มาริโอ ร่วมปั้นเกมรุก
ส่วนฝั่งทีมชาติเวลส์ภายใต้การควบคุมของ คริส โคลแมน ได้สร้างประวัติศาสตร์โดยการผ่านเข้ามาในรอบรองชนะเลิศได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าร่วมศึกการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งนับเป็
นความสำเร็จอย่างสูงสำหรับพวกเขา โดยในรอบแบ่งกลุ่มเวลส์ได้ขึ้นเป็นแชมป์กลุ่มเหนือทีมชาติอังกฤษ ต่อมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติเวลส์ก็สามารถเอาชนะไอร์แลนด์เหนือมาได้ด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0 และในรอบ 8 ทีมสุดท้ายทัพมังกรแดงก็สามารถถล่มตัวเต็งอย่างทีมชาติเบลเยี่ยมมาได้ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมาพบกับทีมชาติโปรตุเกสได้ในรอบนี้ โดยในศึกนี้ นักเตะหลักอย่าง เบน เดวิส และ อารอน แรมซีย์ หมดสิทธิ์ลงแข่ง เนื่องจากติดโทษแบนหนึ่งนัด เพราะสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ จึงคาดว่ากุนซือมังกรแดงจะส่ง โจนาธาน วิลเลี่ยมส์ ลงสนามแทน อารอน แรมซีย์ ในตำแหน่งกองกลาง เพื่อคุมเกมร่วมกับ โจ เล็ดลี่ย์ และ โจ อัลเลน ซึ่งมี นีล เทย์เลอร์ ลงริมเส้นฝั่งซ้าย ในขณะที่ริมเส้นฝั่งขวาได้ส่ง คริส กันเทอร์ ลงควบคุม ส่วนกองหลังคาดว่าจะส่ง เจมส์ คอลลินส์ ลงแข่งแทน เบน เดวิส ร่วมกับ เจมส์ เชสเตอร์ และกัปตันทีม แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ส่วนแนวรุกยังคงวางใจดาวเด่นอย่าง แกเร็ธ เบล นักเตะค่าตัวสูงที่สุดจากสโมสร เรอัล มาดริด ลงทำประตูร่วมกับ ฮัล ร็อบสัน-คานู
จากการลงฟาดแข้งกันของคู่นี้ เคยพบกันเพียงแค่สามหนเท่านั้นในการแข่งขันกระชับมิตร ซึ่งทีมชาติโปรตุเกสเอาชนะได้ 2 ครั้ง และฝั่งทีมชาติเวลส์สามารถเอาชนะไปได้ 1 นัด โดยนัดล่าสุดเป็นฝ่ายโปรตุเกสที่เอาชนะเวลส์ไปได้ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 0 ในการแข่งขันกระชับมิตรเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2000 และสำหรับการพบกันในครั้งที่ 4 ระหว่างเวลส์และโปรตุเกสนี้ ผลออกมาจะเป็นอย่างไร แฟนบอลสามารถร่วมลุ้นได้ในศึกยูโรรอบรองชนะเลิศในวันพุธที่ 6 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 นาฬิกาตามเวลาประเทศไทย
ด้ถล่มทีมซินเดอเรลล่าไอซ์แลนด์อย่างราบคาบ ด้วยสกอร์ 5-2 แม้อีกฝ่ายจะโชว์ถึงความขยันและความพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม โดยตั้งแต่เปิดเกมในนาทีที่ 12 ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายยิงขึ้นนำไปก่อนตามความคาดหมาย โดยหลังจากนั้นเพียง 8 นาที ปอล ป็อกบาก็โหม่งเข้าโกลด์เป็นประตูที่สองให้กับตราไก่ได้อีกหนึ่งลูก เกมดำเนินไปด้วยความพยายามแก้เกมของไอซ์แลนด์ ที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการพ่ายให้กับเจ้าภาพที่มีฟอร์มเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ยของผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายไปมาก และแม้นักเตะส่วนใหญ่ของเวลส์จะไม่ได้เป็นที่รู้จักระดับโลก หรือมีค่าตัวสูงเป็นหลายร้อยล้านดอลล่าห์เหมือนอย่างฝั่งเบลเยี่ยม แต่พวกเขาก็เป็นทีมเวิร์คที่ดีที่สุดในนาทีนี้
คู่สุดท้ายของรอบควอร์เตอร์ไฟนอล แฟนๆ คงจับตามองและเฝ้าคอยด้วยความลุ้นระทึก แถมยังเป็นคู่เด็ด มีหนึ่งในตัวเต็งและเจ้าภาพในการแข่งขันครั้งนี้ร่วมลงสนามด้วย ระหว่างฝรั่งเศสและไอซ์แลนด์แมตช์นี้ ไปดูทางด้านฝรั่งเศสกันก่อน ปอล ป็อกบา เจ้าหนูมหัศจรรย์น่าจะออกทีเด็ด รักษาฟอร์มที่ยังไม่เคยแพ้ใครเลยตลอดการแข่งขันรายการนี้ เปิดสนามเป็นคู่แรกของการแข่งขัน ฝรั่งเศสเอาชนะโรมาเนียมาได้ที่ 2-1 ตามด้วยชนะอัลเบเนียในนัดที่ 2 ด้วยสกอร์ 2-0 และจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ 0-0 โดยในรอบล่าสุด เจ้าภาพตราไก่ผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยการเอาชนะไอร์แลนด์ 2-1 ในรอบตัดเชือก และเข้ารอบมาได้
างแกแร็ธ เบล และแอรอน แรมซี่ย์ ก็พาให้ทีมชาติเวลส์สามารถเข้ามาสู่รอบลึกๆของการแข่งขันฟุตบอลยูโรในครั้งนี้จนได้ โดยจากสถิติที่ผ่านมา ทีมชาติเวลส์เสียประตูไปทั้งหมดเพียง 2 ประตูเท่านั้น โดยประตูแรก เสียให้กับทีมชาติสโลวาเกีย แต่พวกเขาก็เอาชนะมาได้ที่สกอร์ 2-1 ส่วนประตูที่สอง ยกให้กับทีมชาติอังกฤษ เมื่อครั้งที่ต้องเจอกันในนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม และหลังจากนั้นที่เจอกับทีมชาติรัสเซีย เวลส์ก็จัดหนัก ชนะไปถึง 3-0 โดยในนัดล่าสุดรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาก็ยังเอาชนะไอร์แลนด์เหนือ น็อกเอาท์เข้ารอบมาได้อีก เวลส์จึงกลายเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้
บทวิเคราะห์การแข่งขันคู่ที่สองในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่างทีมชาติเวลส์ และเบลเยี่ยมในครั้งนี้ ยังคงเครดิตกับทีมชาติเบลเยี่ยมได้เป็นต่อ ดูจากความหฤโหดในสนามแข่ง และความแข็งแกร่งของทีม ที่น่าจะเอาชนะเวลส์น้องใหม่ได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องระวังดาวยิงอย่างเบลให้ดีเท่านั้น ส่วนที่เหลือ ทีมชาติเบลเยี่ยมถือว่าทำเกมรุกได้ดีเยี่ยม และดูมีความพร้อมจะเข้าชิงในรอบ 4 ทีมสุดท้ายอย่างมาก
กลับมาดูทางด้านโปแลนด์กันบ้าง ที่แม้จะเป็นทีมที่มีฟอร์มไม่ใหญ่และแข็งเท่าโปรตุเกส แต่พวกเขาก็ทำผลงานได้ดีไม่หยอก ชนะไอร์แลนด์เหนือ, เสมอเยอรมนี, ชนะโปแลนด์ และสุดท้ายในรอบ 16 ทีม ก็ยังสามารถเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์มาได้ เรียกว่าพลังอุตสาหะมาเต็ม พร้อมกับแรงอึดแบบทรหด อดัม นาวัลกา กุนซือของทีมต้องรอลุ้นว่าวอเซียค เชสนีย์จะกลับมาลงเล่นให้กับทีมทันการแข่งขันนัดนี้หรือไม่ แต่แน่นอนว่า บาร์ตอสซ์ คาปุสต์ก้า ที่เพิ่งถูกโทษแบนไปจะกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ โดยเกมผู้ทำประตูของโปแลนด์จะเป็นอาร์คาดิอุส มิลิก และโรเบิร์ต เลวานอฟสกี้
รึ่งหลัง อากาศไม่เป็นใจ ฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงมีประกาศให้เลื่อนเวลาการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนด
100 นัด โดยผู้เล่นคนแรกที่ทำสถิตินี้ไว้คือ เคลาดิฌอ บราโว ผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุด อเลสซิส ซานเซซ ยังได้ช่วยเหลือเด็กๆ ในประเทศชิลี ด้วยการสนับสนุนเงินสร้างสนามหญ้าเทียม สำหรับให้เยาวชนได้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับเล่นกีฬา โดยเขาได้สร้างสนามหญ้าเทียม 2 แห่ง ในเมืองโทโคปิญา บ้านเกิดของเขาเอง เพื่อเป็นการสนับสนุนไม่ให้เด็กๆ เอาเวลาไปยุ่งกับยาเสพติด เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมอยากให้เด็กๆ ได้มีสถานที่ๆ เหมาะสมสำหรับการเล่นกีฬา เพราะตัวผมเองตอนเด็กๆ ก็ไม่เคยมีโอกาสได้เล่นสนามบอลแบบนี้” เขากล่าวต่อว่า “การได้ไปเล่นฟุตบอลในต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสที่ดีของผม เพราะที่เมืองบ้านเกิดของผมเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครผ่านมามอบโอกาสสักเท่าไหร่” ซานเซซกล่าวเสริม “สำหรับเด็กๆ แล้ว การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นเรื่องเลวร้าย ผมก็เลยพยายามที่จะส่งเสริมให้พวกเขาเล่นกีฬา โดยการเข้าไปจัดกิจกรรมและเล่นกีฬากับพวกเขา ทุกครั้งที่ผมเข้าไปร่วมเล่นกับเด็กๆ ผมรู้สึกดีเหมือนกับได้รับสิ่งตอบแทน นั่นก็คือรอยยิ้มของพวกเขา”