M88
ข้อเสนอพิเศษสุดสำหรับสปอร์ตและเอ็มสปอร์ตจาก M88
แบล็กแจ๊ค หรือเกมไพ่ 21 เป็นเกมที่ได้รับความนิยมแพร่หลายตั่งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นเกมกระดานที่ผู้เล่นต้องสู้กับเจ้ามือและมีการเรียนรู้ง่ายและเล่นไม่ยากโดยลักษ
ณะของเกมคือผู้เล่นใดที่สามารถรวมคะแนนไพ่สองใบในมือให้ได้แต้มเท่ากับ 21
แต้มก่อนจะได้รับเงินเงินเท่าต่อเท่าแต่ถ้าหากไพ่ในมือผู้เล่นเป็นแจ็คหรือเอซหรือดอกจิกจะได้รับผ
ลตอบแทนเป็น 10 ต่อ 1แต่ถ้าต้องใช้ไพ่มากกว่า 2 ใบรวมแต้มกันถึงจะเป็น 21
แต้มและแต้มชนะเจ้ามือสามารถชนะและได้รับเงินรางวัลเช่นกันโดยจะจ่ายเป็นเท่าต่อเท่าโดยก่อน
ที่จะเรียนรู้เรื่องทักษะการเล่นนั้นผู้เล่นต้องเข้าในค่าของไพ่แต่ละชนิดและวิธีการเล่น
ค่าของหน้าไพ่
ไพ่ A (Ace, เอช) มีค่า 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับกฎของแบล็กแจ็ก
ไพ่ 2-10 มีค่าตามหน้าไพ่
ไพ่ J (แจ็ก), Q (ควีน, แหม่ม), K (คิง) มีค่า 10
วิธีการเล่น
1.ผู้เล่น 2 คนขึ้นไป
2.ผู้เล่นวางเงินเดิมพันลงในช่องสี่เหลี่ยม
3.เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละใบก่อนแล้วค่อยแจกให้ตัวเอง โดยผู้เล่นจะได้ไพ่คนละ 2 ใบ
ส่วนเจ้ามือได้ 1ใบหรือหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ (ไพ่ของผู้เล่นต้องคว่ำเสมอ)
4.หากไพ่ทั้ง 2 ใบของผู้เล่นรวมแล้วแต้มบนไพ่ยังห่างไกลจาก 21
มากสามารถเรียกไพ่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หากแต้มบนไพ่เกิน 21 แพ้ทันที
(เรียกไพ่ทีละคนตามลำดับ เจ้ามือเรียกไพ่เป็นคนสุดท้าย)
5.กฎของแบล็กแจ็ก เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16
ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือ
6.หากผู้เล่นพอใจที่ 16 แต้มสามารถหยุดได้ รอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ
เทคนิคการเล่นแบล็กแจ็ก
เทคนิคที่ 1 ทำให้เจ้ามือมีโอกาสระเบิด
หากเจ้ามือหงายไพ่ 4 5 หรือ 6 ผู้เล่นไม่ต้องขอไพ่เพิ่มนอกจากผู้เล่นมีไพ่ soft อยู่ในมือ
(หมายถึงไพ่ที่เมื่อจั่วเพิ่มแล้วไม่มีโอกาสระเบิด) ซึ่งทำให้เจ้ามือมีโอกาสจะระเบิดมากขึ้น
ตรงกับความต้องการของผู้เล่น ในกรณีนี้
ผู้เล่นอาจขอไพ่
เทคนิคที่ 2 Hard Hand หากผู้เล่นมีไพ่อยู่ในมือ 17 หรือมากกว่า
ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องขอไพ่เพิ่มถึงแม้ว่าไพ่ที่เจ้ามือหงายขึ้นมาจะสูงกว่าคุณ
เนื่องจากหากท่านขอไพ่เพิ่มท่านจะมีโอกาสระเบิดสูง
แม้ว่าเจ้ามือจะคว่ำไพ่หน้าสิบก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ไพ่ที่ถืออยู่จะมี คะแนนรวมน้อยกว่า
หากผู้เล่นมีไพ่อยู่ในมือ 17 และเจ้ามือมีไพ่รวมกันเท่ากับ 17
ผู้เล่นก็ยังเสมอหากไพ่ของเจ้ามือต่ำกว่าท่านก็จะชนะ
เทคนิคที่ 3 การประกัน (Insurance) ผู้เล่นจะได้รับการเสนอโอกาสให้ซื้อประกัน
ถ้าไพ่ที่หงายอยู่ของเจ้ามือเป็นเอซ เงื่อนไขนี้เป็นการเดิมพันแยก
ว่าไพ่ของเจ้ามือที่คว่ำอยู่เป็นแต้มสิบและเจ้ามือจะได้แบล็คแจ็ค การประกันจะจ่าย 2 ต่อ 1
และอาจเดิมพันครึ่งหนึ่งจากการเดิมพันครั้งแรกของผู้เล่น เนื่องจากไพ่แต้มสิบในสำรับจะมีจำนวน
16 ใบ ส่วนไพ่อีก 36 ใบ เป็นค่าอื่นที่ไม่ใช่สิบแต้ม ดังนั้นผลตอบแทน 2-1
จะดีสำหรับเจ้ามือและทำให้ผู้เล่นเสียประโยชน์
กล่าวได้ว่าไม่ต้องซื้อประกันถ้าคุณเล่นกับผู้เล่นหลายคนด้วยไพ่สำรับเดียว และในเกมนั้นมีไพ่ 10
แต้มมากกว่าห้าใบ
เทคนิคที่ 4 การยอมแพ้ (Surrender) คาสิโนบางแห่งให้ผู้เล่นขอยอมแพ้ได้
หมายความว่าหลังจากที่เห็นไพ่สองใบแรก ผู้เล่นได้รับอนุญาตให้ยอมแพ้
หรือยอมเสียเงินเดิมพันครึ่งหนึ่งและหมอบไพ่ในมือ
ตามกฎทั่วไปการยอมแพ้ใช้ได้ดีที่สุดเมื่อผู้เล่นได้ 15 หรือ 16 แต้ม
โดยเห็นว่าไพ่ของเจ้ามือที่หงายอยู่เป็นแต้ม 9, 10 หรือ ace
เทคนิคที่ 5 การแยกไพ่ (Split) เมื่อไพ่สองใบแรกของผู้เล่นมีค่าเท่ากัน (แจ็ค-10, 8-8, 2-2 เป็นต้น)
ผู้เล่นอาจแยกไพ่ในมือและเล่นสองมือ เพื่อเริ่มต้นด้วยไพ่ใบเดียว
และถ้าผู้เล่นได้ไพ่ที่มีค่าเท่ากันอีก ผู้เล่นสามารถแยกไพ่ได้อีกครั้ง
โดยปกติสามารถแยกไพ่ได้สูงสุดสี่มือ กฎง่ายๆ คือให้แยกไพ่เอซและแปดเสมอ
การแยกเอซเป็นวิธีที่ดีเพราะมีแนวโน้มที่จะทำให้ไพ่ในมือมีแต้มดีกว่า
แต่เพราะเหตุนี้ผู้เล่นจะได้รับอนุญาตให้แยกไพ่เอซได้ใบเดียวเท่านั้น
ผู้เล่นอาจไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มเติม และถ้าผู้เล่นจั่วได้ไพ่สิบแต้ม แล้วได้แต้มรวม 21
จะไม่ถือว่าเป็นแบล็คแจ็ค ไพ่คู่แปดแต้มจะถูกแยกเสมอเพราะคะแนน 16
ในมือนั้นเป็นการเริ่มต้นที่เลวร้ายที่สุด โดยทั่วไปไพ่คู่ 2, 3, 6 หรือ 7
ควรแยกเมื่อไพ่ที่หงายอยู่ของเจ้ามือเป็น 7 แต้มหรือน้อยกว่า ไพ่คู่ 9
ควรแยกออกเมื่อไพ่ที่หงายอยู่ของเจ้ามือเป็นเลขใดก็ตามยกเว้น 7, 10 และเอซ อย่าแยกไพ่คู่ 4
หรือ 10 และกับคู่ 5 แทนที่จะแยกไพ่ให้วางเดิมพันเป็นสองเท่าแทน
เทคนิคที่ 6 การวางเดิมพันเป็นสองเท่า (Double Down)
เมื่อไพ่สองใบแรกของคุณได้แต้มรวมเท่ากับ 9, 10 หรือ 11
คุณจะต้องวางเดิมพันเป็นสองเท่าในหลายมือ
คุณควรทำเช่นนี้ถ้าไพ่ของเจ้ามือที่หงายอยู่น้อยกว่าแต้มรวมของคุณ
ในกรณีนี้คุณจะวางเดิมพันเป็นสองเท่าจากยอดเดิมและได้รับไพ่หนึ่งใบ
คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกไพ่เพิ่มเติม ในคาสิโนบางแห่งและคาสิโนออนไลน์ส่วนใหญ่
คุณสามารถวางเดิมพันเป็นสองเท่าสำหรับไพ่สองใบ คุณไม่ต้องวางเดิมพันเป็นสองเท่า
เมื่อไพ่ในมือของคุณเป็น เอซ 2, 3, 4, 5 หรือ 6 และไพ่ที่หงายอยู่ของเจ้ามือเป็น 4, 5 หรือ 6
เทคนิคที่ 7 การเดิมพันโบนัส (Bonus Bet) หลักง่ายๆ
สำหรับการเลือกจั่วไพ่และการพอใจกับไพ่ในมือ การรับประกัน การวางเดิมพันสองเท่า
รวมถึงการแยกไพ่ วิธีเหล่านี้จะช่วยลดเปอร์เซ็นต์ความได้เปรียบของเจ้ามือให้น้อยลง
(ส่วนใหญ่ประมาณ 1%) ซึ่งทำให้แบล็คแจ็คเป็นเกมที่น่าเล่น
คุณสามารถปรับปรุงการเล่นของคุณด้วยหลักการดังที่กล่าวมาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎที่เรียก
ว่ากลยุทธ์พื้นฐาน แต่กำไรของคุณจะมีจำนวนน้อยมาก ในอีกกรณีหนึ่ง
เกมแบล็คแจ็คจะมีการเสนอเดิมพันโบนัสและเดิมพันข้าง (side bet) ซึ่งมีผลตอบแทนสูงมาก
ในความเป็นจริง การเดิมพันโบนัสส่วนใหญ่มีความได้เปรียบสูงกว่า 5%
กฎที่ดีที่สุดของการเลือกเดิมพันข้างคือให้คุณหลีกเลี่ยงมัน การเดิมพันแบบนี้สนุกมาก็จริง
แต่มีราคาสูงเกินไป สำหรับผู้เล่นออนไลน์
จำไว้ว่าคุณกำลังได้รับเงินมากมายจากการเล่นแต่ละชั่วโมง
การเดิมพันโบนัสสามารถผลาญเงินของคุณได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นคุณควรเดิมพันโบนัสอย่างเหมาะสม!
เทคนิคที่ 8 ไพ่คู่เพอร์เฟค การเดิมพันไพ่คู่เพอร์เฟค คือ
ไพ่สองใบแรกของผู้เล่นและไพ่สองใบแรกของเจ้ามือเป็นคู่ ซึ่งลักษณะการเล่นจะมีการพิจารณา 2
แบบคือการพิจารณาไพ่คู่เพอร์เฟคของผู้เล่นและไพ่คู่เพอร์เฟคของเจ้ามือโดยข้อกำหนดคือ
8.1 ไพ่คู่เพอร์เฟคของผู้เล่นจะชนะได้ก็ต่อเมื่อได้ไพ่สองใบแรกคือ “คู่เพอร์เฟค” “คู่สี” หรือ
‘คู่แดง/ดำ และถ้าไพ่คู่เพอร์เฟคของเจ้ามือ คือ “คู่เพอร์เฟค” “คู่สี”, หรือ ‘คู่แดง/ดำ’.
8.2 ไพ่คู่เพอร์เฟคของผู้เล่นตามตารางอัตราการจ่ายถ้าไพ่ ของสองผู้เล่นแรกหรือ
เจ้ามือเป็นคู่ หน้าไพ่เหมือนกันยกตัวอย่างไพ่คู่ 4 ข้าวหลามตัดผู้เล่นจะชนะการเดิมพัน
8.3 เป็นพันไพ่คู่สีตามตารางอัตราการจ่ายถ้าไพ่ของสองผู้เล่นแรก
หรือเจ้ามือเป็นคู่สีเดียวกันแต่หน้าไม่ เหมือนยกตัวอย่าง ไพ่ 4 ข้าวหลามตัด และ ไพ่ 4
หัวใจผู้เล่นจะชนะการเดิมพัน
8.4 ชนะการเดิมพันไพ่คู่ผสมตารางอัตราการจ่าย
ถ้าไพ่ของสองผู้เล่นแรกหรือเจ้ามือเป็นคู่แต่สีและหน้าไพ่ไม่ ยกตัวอย่าง ไพ่ 4
ข้าวหลามตัดและไพ่ 4 โพดำ.
เทคนิคที่ 9 พื้นฐานการตัดสินใจคือ S คือ Stand ให้ผู้เล่นหยุดการเล่น H คือ HIt
ให้ผู้เล่นเพิ่มไพ่อีก 1 ใบ D คือ Double ให้ผู้เล่นลงเดิมพันเพิ่ม Su คือ Surrender
ให้ผู้เล่นยอมไพ่อื่น
นอกจากนี้ยังมีทิปส์อื่นๆ ที่น่ารู้สำหรับการเล่นแบล็คแจ็คอีกหลายข้อ ดังต่อไปนี้
1. เมื่อไหร่ควร double down?
1.1 เมื่อคุณได้ 11 แต้ม อย่าลังเลถ้าเจ้ามือโชว์ 10 หรือ ace
1.2 เมื่อคุณได้ 10 แต้มและไพ่ของเจ้ามือคือ 9 หรือน้อยกว่านั้น
1.3 เมื่อคุณได้ 9 แต้มและไพ่ของเจ้ามือคือ 2-8
1.4 ลง double down เมื่อผลรวมไพ่ของคุณเท่ากับ 9 แต้ม และเจ้ามือมี 4,5 หรือ 6
2. เมื่อได้ 20 อย่า split ไพ่ จากสถานการณ์นี้ หากไพ่ในมือคุณมีค่ารวมเท่ากับ 20
ถือเป็นไพ่ที่ยอดเยี่ยม จุดหมายของคุณคือให้ได้แต้มที่ 21 แต่หากคุณได้ 20 แต้มอยู่ในมือตั้งแต่ต้น
ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เจ้ามือจะชนะคุณ นั่นคือการได้แต้ม 21
ซึ่งเป็นส่ิงที่ยากมากสำหรับเจ้ามือที่จะได้ไพ่แต้มดังกล่าว
3. Split ไพ่ให้เป็น 8 แต้มสองกองเสมอ ไม่ว่าไพ่ของเจ้ามือจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม ให้คุณ split
ไพ่ออกเป็นออกเป็น 2 กองๆ ละ 8 แต้มเสมอ
เนื่องจากโอกาสในการรวมไพ่ให้มีแต้มสูงขึ้นนั้นมีมากกว่า
4. อย่าแบ่งไพ่ออกเป็นกองละ 5 แต้ม เมื่อคุณได้รับไพ่ 5 จำนวน 2 ใบ เท่ากับคุณมี 10 แต้ม
ดังนั้นการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดคือการ double down เพราะหากคุณแยกไพ่เป็น 2 กอง
แล้วเกิดได้ผลรวมกองละ 10 แต้ม ก็เท่ากับคุณเพิ่งได้ไพ่แย่ที่สุด
5. มือแข็ง: ใช้ในกรณีเมื่อคุณได้ไพ่ที่มีแต้มรวมที่ 12 หรือมากกว่า
5.1 รักษาไพ่ไว้ และรวมให้ได้ 17 แต้มหรือมากกว่า
5.2 รักษาไพ่ไว้หากไพ่ของคุณมีผลรวมที่ 12-16 และเจ้ามือได้ 2-6
5.3 เรียกไพ่เพิ่ม (hit) หากไพ่ของคุณมีผลรวมที่ 12-16 และเจ้ามือได้ 7 หรือมากกว่า
6. เคล็ดลับในการ split ไพ่
6.1 แยกไพ่ให้เป็น 2 กอง กองละ 8 แต้มเสมอๆ เพราะการแยกเป็น 8
แต้มจะทำให้ไพ่เอื้อมถึง 16 แต้มได้ ส่วนไพ่ ace จำนวน 2 ใบจะให้แต้มคุณได้ไม่ 1 ก็ 12
แต่เมื่อคุณแยกมันออก ไพ่แต่ละใบจะมีค่าที่ 11
6.2 อย่าแยกไพ่เป็นแต้ม 4,5 และ 10 โดยคุณสามารถแยกไพ่ให้เป็นกองละ 2 หรือ 3
แต้มได้ ถ้าเจ้ามือมีไพ่แต้ม 4-7
6.3 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ที่มีแต้ม 3-6 คุณต้องแยกไพ่ของคุณให้ได้แต้ม 6
6.4 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ที่มีแต้ม 3-7 คุณต้องแยกไพ่ของคุณให้ได้แต้ม 7
6.5 เมื่อเจ้ามือถือไพ่ที่มีแต้ม 6,8 หรือ 9 คุณต้องแยกไพ่ของคุณให้ได้แต้ม 9