เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ โคล้ด ปูแอล จะไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ ในการแข่งขันนัดล่าสุดกับ ลิเวอร์พุล แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลหลายคนเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเจาะทะลุแนวหลังของหงส์แดงได้สำเร็จในแมทช์ล่าสุดที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
ข่าวทีม
เจมี่ วาร์ดี้ ยังคงต้องพักรักษาตัว นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันกับโวล์ฟ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ มีแววจะได้เป็นนักเตะตัวจริงเหมือนในแมทช์ที่สนาม เซนต์ แมร์รี่ สเตเดี้ยม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เดยาน ลอฟเรน ก็ยังคงต้องนั่งม้าสำรองเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหน้าขา ในขณะที่ผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ เปรยว่าแข้งทีมชาติโครเอเชียจะยังคงไม่ได้ลงแข่งขันเร็ว ๆ นี้
พรีวิวการแข่งขัน
จากการแข่งขันนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลปีนี้ก็พอจะการันตีฟอร์มการเล่นของแต่ละทีมได้แล้วว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้านับการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดในรายการ พรีเมียร์ ลีก นั้น ฟอร์มการเล่นของทั้ง 2 ทีมค่อนข้างสูสีกันเลยทีเดียว เนื่องจากพวกเขามีสถิติสังหารประตูเฉลี่ยที่ 4 ครั้งต่อการแข่งขัน
เจมี่ วาร์ดี้ สไตร์เกอร์คนสำคัญของ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นมีสถิติสังหารประตูถึง 27 ครั้ง ตลอด 6 นัดกับทีมยักษ์ใหญ่ นั่นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ราว 43% สำหรับประตูที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ยิงทีมที่ใหญ่กว่าตั้งแต่ปี 2014
การสังหารประตูของเขานั้นยังไม่ยั่วยวนเท่ากับราคาของนักเตะคนนี้และปราการหลังของ ลิเวอร์พูล อาจจะต้องช้ำแน่นอนถ้าเกิดว่า วาร์ดี้ นั้นได้ลงแข่งขันในแมทช์ที่ คิง เพาเวอร์ นี้
ทำนายผลฟุตบอล
เป็นอะไรที่ยากจะเดาทางเป็นอย่างมากสำหรับแมทช์นี้ เนื่องจากทางด้านของ ลิเวอร์พูล นั้นกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มการเล่นค่อนข้างดี และพวกเขาก็นับว่าเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในขณะนี้
หลายคนเกร็งว่าในการแข่งขันนัดนี้นั้น ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนในช่วงครึ่งแรก ซึ่งถ้าหากว่ารูปเกมส์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเขาอาจจะใช้โอกาสนี้คว้าชัยไปในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีแฟนบอลของ เลสเตอร์ ซิตี้ หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โคล้ด ปูแอล ผู้จัดการทีมคนใหม่จากผลงานการเล่นของทีมในการแข่งขันเปิดฤดูกาลปีนี้ เนื่องจากพวกเขาเสียประตูเร็วเกินไป และทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าพอใจเหมือนในฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มา